Shazam! Fury of the Gods

ยังเป็นเรื่องราวของ บิลลี่ แบตสัน หนุ่มน้อยที่หากเขาตะโกนคำว่า “ชาแซม!” เขาจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่หุ่นล่ำบึ้กชื่อว่า ชาแซมและในครั้งนี้เขากับเหล่าพี่น้องนักสู้ต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายตนใหม่ที่จุติมาจากเบื้องบน นั่นคือเหล่าเทพเจ้าผู้เกรี้ยวกราดที่หมายจะยึดครองอำนาจบนดาวที่เรียกว่า โลก

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนเลยว่า Shazam! มีพัฒนาการยิ่งขึ้น นั่นคือความโฟลว์ในการดำเนินเรื่องราวแบบฉบับของตัว หนังยังคงขับเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวละครนำออกมาได้อย่างตรงจุด พวกเขารู้ว่าผู้ชมต้องการอะไร พร้อมการสร้างคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวจี๊ดและตัวตึงอย่างโดดเด่น โดยที่ยังเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้พยายามไปก็อปปี้จากเพื่อนบ้านซอยข้าง ๆ มา

บทบาทในการเป็นชาแซมของเขาได้เป็นอย่างดี เขายังสามารถใช้เสน่ห์และออกลีลาในการดีไซน์ตัวละครนี้ออกมาให้ผู้ชมได้ประทับใจอยู่ ถึงแม้ว่ามันแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่และต่างไปจากภาคที่แล้วเท่าไหร่นัก อีกทั้งภาคนี้ดูเหมือนองค์ประกอบต่าง ๆ ของบทนี้ดูจะตื้นเขินและเบาบางมากขึ้น

แต่กระนั้นหากมองในแง่ที่หนังเป็นกลิ่นอายความเป็นหนังดีซีในยุคที่กำลังจะถูกล่มสลายลงไปแล้ว ก็นับว่าค่อนข้างน่าใจหายอยู่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมานั้น ยังมีบางมุมและบางจุดที่ปูทางเอาไว้ในอนาคตต่อไปได้ด้วย

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ